กระเบื้องยาง มีแบบไหนบ้าง ต่างกับพื้นไม้ลามิเนตอย่างไร จะเลือกซื้อแบบไหนดี

กระเบื้องยาง สำหรับติดตั้งพื้น หรือ Vinyl Floor หลายๆคนมักจะสับสนกับ พื้นไม้ลามิเนต หรือ Laminate Flooring อยู่ จริงๆแล้วทั้งสองวัสดุนี้ มีทั้งสิ่งที่เหมือน และ แตกต่างกันอยู่ ดังนี้

สิ่งที่เหมือนกัน ระหว่าง พื้นกระเบื้องยาง และ พื้นไม้ลามิเนต คือ

  1. ทั้งสองวัสดุ เป็นวัสดุที่สังเคราะห์ขึ้นมาสำหรับปูพื้นเพื่อให้ความสวยงาม
  2. ทั้งกระเบื้องยาง และ ลามิเนต มีการทำลายที่ผิวหน้า เลียนแบบธรรมชาติ เช่น ลายไม้ และ ลายหิน เพื่อเพิ่มความสวยงาม แลดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

สิ่งที่ต่างกันระหว่าง กระเบื้องยาง และ พื้นไม้ลามิเนต คือ

  1. เนื้อวัสดุของกระเบื้องยางผลิตจากเม็ดพลาสติก (PVC) จึงมีคุณสมบัติทนต่อน้ำ และ ความชื้นได้ดีกว่าพื้นไม้ลามิเนต ที่ผลิตจากใยไม้แบบ HDF (High Density Fiberboard)
  2. กระเบื้องยาง มีความหนาโดยประมาณ ที่ 2,3 และ 4 มิลลิเมตร มีทั้งแบบติดตั้งด้วยการทากาว และ แบบติดตั้งด้วยระบบเข้าลิ้นคลิ๊ก หรือ Click Lock (ซึ่งในระยะหลัง ตั้งแต่ต้นปี 2561 กระเบื้องยางระบบคลิ๊กเป็นที่นิยมมาก เนื่องจาก ความทนทานมากกว่า และ ดูแลรักษาง่ายกว่า) ในขณะที่ความหนาของพื้นไม้ลามิเนต จะอยู่ที่ 8 มิลลิเมตร และ 12 มิลลิเมตร เท่านั้น โดยพื้นไม้ลามิเนต จะติดตั้งด้วยระบบเข้าลิ้นอย่างเดียว และ ต้องรองด้วยฟิล์มโฟมรองพื้น (หรือโฟมลามิเนต) ก่อนติดตั้งเท่านั้น ดังนั้น พื้นกระเบื้องยางที่บางกว่า ทำให้การเตรียมพื้น สำหรับติดตั้งพื้นกระเบื้องยางจะต้องเนี๊ยบกว่า คือ จะต้องเป็นพื้นปูนขัดมันเท่านั้น
  3. ส่วนใหญ่แล้ว พื้นไม้ลามิเนตจะผลิตเฉพาะลายไม้ เท่านั้น แต่ว่านอกจากลายไม้แล้ว กระเบื้องยางยังมีลายหิน ลายพื้น เช่นสีฟ้า สีเทา (ที่มักเห็นตามพื้นโรงพยาบาล) และ ลายที่กำลังเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน คือ กระเบื้องยางลายปูน หรือ ลายปูนเปลือยขัดมัน เนื่องจากดูแลง่าย เวลาเดินไม่กระด้างเท้า ส้นเท้าไม่แตก และ ที่สำคัญคือ กระเบื้องยางลายปูนไม่มีโอกาสแตกร้าว หรือ crack ได้เหมือนการฉาบปูนเปลือยที่พื้นอีกด้วย

ชนิดของกระเบื้องยาง

กระเบื้องยางมีหลายชนิด สามารถจัดแบ่งได้หลายประเภท หากแบ่งตามลวดลายของกระเบื้องยาง ก็จะแบ่งเป็นกลุ่ม ลายไม้ ลายหิน ลายพื้น และ ลายปูนเปลือย นอกจากนี้ การแบ่งกระเบื้องยางที่สำคัญมากที่สุด และต้องคำนึงเมื่อเลือกใช้กระเบื้องยางคือ วัสดุที่นำมาผลิตกระเบื้องยาง จากที่ได้เกริ่นมาเบื้องต้นแล้วว่ากระเบื้องยางผลิตจากเม็ดพลาสติก PVC ดังนั้นคุณภาพของกระเบื้องยางจึงขึ้นอยู่กับคุณภาพของ PVC ที่นำมาผลิต บางโรงงานอาจลดต้นทุนการผลิต ด้วยการใช้วัตถุดิบแบบ recycle หรือ ขยะพลาสติก นำมาผลิต จะส่งผลต่อคุณภาพของกระเบื้องยางเป็นอย่างมาก เช่น การยืดหดตัว ที่ควบคุมยาก เนื่องจากขยะพลาสติก ไม่สามารถควบคุมที่มาได้ จึงทำให้ควบคุมคุณภาพยาก วิธีการสังเกตคือ ราคาขายกระเบื้องยางถูกมากจนผิดสังเกต (นั่นคือ ต้นทุนการผลิตต่ำ นั่นเอง) คุณภาพของกระเบื้องยางที่ดี จะต้องผลิตจาก Pure PVC หรือเม็ดพลาสติกใหม่เท่านั้น (ดับเบิลฟลอร์ เป็นอีกโรงงานหนึ่งที่ใช้ Pure PVC ในการผลิตกระเบื้องยาง เราจึงมีผลงานการติดตั้งที่เยอะมาก ทั้งงานบ้าน คอนโด ร้านค้าในห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างๆ ที่มีการใช้งานสมบุกสมบัน แต่คุณภาพ และ ความสวยงามก็ยังดีอยู่)

นอกจากนี้กระเบื้องยาง ยังสามารถแบ่งตามขนาดความหนาได้ เป็นแบบทากาว และ แบบเข้าลิ้นคลิ๊ก โดยแบบทากาว จะหนาอยู่ที่ 2mm และ 3mm ติดต้ังด้วยการทากาวบนพื้นปูนที่ขัดมันแล้วเท่านั้น และ กระเบื้องยางแบบหนา 4mm เป็นแบบเข้าลิ้นคลิ๊ก (Click Lock) ไม่ต้องทากาวเลย แน่นอนว่า กระเบื้องยางแบบทากาว อายุการใช้งานจะสั้นกว่า และ ดูแลรักษายากกว่า เนื่องจาก กาวยังไม่สามารถทนต่อน้ำ และ ความชื้นได้ ดังนั้น หากต้องการกระเบื้องยางที่ทนทาน และ อายุการใช้งานยาวนาน แนะนำเป็นแบบเข้าลิ้น หนา 4mm เป็นอย่างต่ำ โดยกระเบื้องยางแบบหนา 4mm เข้าลิ้นคลิ๊ก นั้น ยังสามารถติดตั้งทับพื้นกระเบื้องเดิม หรือ พื้นหินขัดเดิม โดยที่ไม่ต้องรื้อวัสดุกระเบื้อง หรือ หินขัดออก สำหรับบ้านที่ต้องการรีโนเวทใหม่ได้อีกด้วย จึงทำให้กระเบื้องยางแบบเข้าลิ้น เป็นที่นิยมมาก เป็นวัสดุที่มาแรงมากในปีนี้ (ปี 2561)

ส่วนประกอบ ของกระเบื้องยาง

เช่นเดียวกับวัสดุอื่นๆ หากเรารู้จักกับส่วนประกอบของวัสดุนั้นๆแล้ว ก็จะทำให้เราทราบถึงความเหมาะสม ในการเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับพื้นที่ที่เราจะติดตั้ง และ เข้าใจการดูแลรักษาได้อย่างถูกวิธี โดยกระเบื้องยาง ของ ดับเบิลฟลอร์ และ กระเบื้องยางที่ดีนั้น จะมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้

  1. UV Coating หรือ ชั้นบนสุดของกระเบื้องยาง จะเป็นชั้นที่เคลือบด้วย PU เพื่อ ปกป้องสีซีดจางจากแสงแดด ทำให้กระเบื้องยางมีสีสดใหม่เสมอ
  2. Wear Layer หรือ ชั้นกันสึก เป็นแผ่น โพลีเมอร์ ที่มีคุณสมบัติ ปกป้องสี และ ลวดลายของกระเบื้องยาง ไม่ว่าจะเป็น ลายไม้ หรือ ลายปูนก็ตาม
  3. Printing Layer หรือ ชั้นแผ่นที่แสดง ลวดลาย และ สี ของกระเบื้องยาง ที่สวยงาม โดยกระเบื้องยาง ของ ดับเบิลฟลอร์ มีให้เลือกหลากสี และ หลายลวดลาย ทั้งลายไม้ และ ลายปูน โดยแต่ละสีและ ลวดลายของกระเบื้องยาง ได้ถูกออกแบบ และ คัดเลือกจากดีไซเนอร์ ชื่อดัง ทำให้ไม่ว่าจะเลือกกระเบื้องยาง สีไหน ของดับเบิลฟลอร์ ก็สามารถแต่งพื้นห้องให้สวยได้ง่าย
  4. Fiberglass ชั้นกลาง หรือ core layer ของกระเบื้องยาง เป็น signature ตัวชูโรงความมีคุณภาพโดดเด่น ของ ดับเบิลฟลอร์ ที่เราผลิตโดยใส่ส่วนผสมของ ไฟเบอร์กราส เพื่อช่วยลดอัตราการยืด หด  ขยายตัวของ วัสดุกระเบื้องยาง ทำให้กระเบื้องยางของดับเบิลฟลอร์ ทนต่อสภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิสูงได้ดี
  5. Middle Layer หรือ ชั้นไวนิลที่กำหนดความหนาของกระเบื้องยาง และ มีคุณสมบัติป้องกันแรงกระแทก และ มีส่วน support ลด การยือหด ของกระเบื้องยางอีกด้วย
  6. Balance Layer หรือ ชั่นช่างสุด ของกระเบื้องยาง ชั้นนี้มีคุณสมบัติ ลดการยือหด และ เพิ่มการยึดสัมผัส กับพื้นผิวที่ติดตั้ง

 

 

เลือกซื้อสินค้า กระเบื้องยางคุณภาพดี เกรด Pure PVC : https://www.doublefloor.co.th/our-products/กระเบื้องยาง/

 

 

บทความโดย บริษัท ดับเบิลฟลอร์ จำกัด – ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย พื้นไม้ทุกชนิด พร้อมติดตั้ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เรื่องพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ – คุณสมบัติ และ หลักการติดต้ัง โทร 02-398-6896, 02-398-2228,

Line ID: @DoubleFloor (มี @ด้วยนะครับ)